ติดต่อเรา

Email:icothai@gmail.com

Tel0819511100

           ^ กดเบอร์โทรข้างบนเพื่อติดต่อได้เลยคะ 

Line : 0819511100

Office Hours

  • Monday - Friday 
  • 8.30 A.M. to 5.00 P.M.
  • Saturday - Sunday Closed
 ติดต่อสอบถาม

ชื่อ :
นามสกุล :
บัตรประชาชนเลขที่ :
ที่อยู่ :
อำเภอ :
จังหวัด :
รหัสไปรษณีย์ :
มือถือ :
อีเมล์ :
Line ID :
Facebook ID / Name :
เรื่องที่สอบถาม :
 
 

 
 
 
 
 
LINE ID : 0819511100




คดีฟ้องหญิงชู้ ชายชู้ เรียกค่าเสียหาย ค่าทดแทน




ชู้ หมายถึง ชายที่ร่วมประเวณีด้วยเมียเขา เรียกว่า เป็นชู้ / หญิงที่ยังมีสามีอยู่แล้ว ร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า มีชู้ และเรียกชายหรือหญิงที่ใฝ่ในทางชู้สาวว่า เจ้าชู้ ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า การฟ้องบุคคลที่เป็นชู้กับสามีหรือภริยา อีกฝ่ายมีสิทธิได้รับค่าทดแทน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องคือ มาตรา ๑๕๒๓ เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากัน เพราะเหตุตามมาตรา ๑๕๑๖ (๑) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยา และจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น  สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้ ถ้าสามีหรือภริยายินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา ๑๕๑๖ (๑) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้ มาตรา ๑๕๒๙ สิทธิฟ้องร้องโดยอาศัยเหตุในมาตรา ๑๕๑๖ (๑) (๒) (๓) หรือ (๖) หรือมาตรา ๑๕๒๓ ย่อมระงับไปเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปีนับแต่วันผู้กล่าวอ้างรู้หรือควรรู้ความจริงซึ่งตนอาจยกขึ้นกล่าวอ้าง     เหตุอันจะยกขึ้นฟ้องหย่าไม่ได้แล้วนั้น อาจนำสืบสนับสนุนคดีฟ้องหย่าซึ่งอาศัยเหตุอย่างอื่น ทั้งนี้ การฟ้องเรียกค่าทดแทนตามมาตรา ๑๕๒๓ วรรคหนึ่ง เป็นการเรียกได้จากคู่สมรสอีกฝ่าย และจากหญิงชู้หรือชายชู้ จึงมีเงื่อนไขว่าต้องมีคำพิพากษาให้หย่ากันก่อน กล่าวคือ ต้องฟ้องหย่าด้วยในคดีเดียวกัน แต่ถ้าเป็นกรณีเรียกค่าทดแทนจากผู้ที่ล่วงเกินหรือมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวตามมาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ทันที โดยไม่จำต้องฟ้องหย่าหรือหย่าขาดจากคู่สมรสเสียก่อน ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฏีกา ที่น่าสนใจ


ประเด็น ไม่จำเป็นต้องฟ้องหย่าด้วย ก็ฟ้องชู้ได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๙๔๐/๒๕๓๘   โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวตลอดมา จนถึงวันฟ้อง ลักษณะการกระทำของจำเลยได้กระทำต่อเนื่องกัน มายังมิได้หยุด การกระทำละเมิดของจำเลยได้เกิดขึ้นและมีอยู่ในขณะฟ้อง คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยที่ว่า การฟ้องเรียกค่าทดแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ จะต้องฟ้องหย่าเสียก่อนจึงจะเรียกค่าทดแทนได้นั้น เป็นฎีกาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจำเลยก็มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า การเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง ไม่มีเงื่อนไขว่าภริยาต้องฟ้องหย่าสามีเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงนั้นได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง


 


ประเด็น จดทะเบียนต่างประเทศ ก็ฟ้องชู้ในประเทศไทยได้ เพราะถือเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๖๐๕๑/๒๕๔๐ เมื่อการสมรสระหว่างโจทก์และ ส. ผู้ตายเป็นการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐเนววาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๕๙ วรรคหนึ่ง แล้ว ต่อมาจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับ ส. สามีโจทก์ตามกฎหมายไทยอีก จึงเป็นการจดทะเบียน ในขณะที่ ส. มีคู่สมรสอยู่ก่อนแล้ว เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๕๒ ตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา ๑๔๙๖ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ส.


ประเด็น จะฟ้องเรียกค่าทดแทนเป็นรายเดือน จนกว่าจะเลิกแสดงตนเป็นชู้ ไม่ได้ คำพิพากษาศาลฏีกาที่ ๖๓๘๓/๒๕๓๗ ภริยามีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๑ วรรคสอง ค่าทดแทนนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่ง มีความหมายรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของภริยา ซึ่งเป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติให้รับผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว จะฟ้องเรียกค่าทดแทนโดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ และมาตรา ๔๔๗ ให้ชำระค่าเสียหายเป็นรายเดือน นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเลิกแสดงตนและเลิกมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีอีกไม่ได้


ประเด็น ต่อสู้เรื่องการยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ ภาระการพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๒๐/๒๕๓๐ การล่วงเกินในทำนองชู้สาว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา๑๕๒๓ วรรคสอง มีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้ มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้ และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ด้วย  โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นชู้กับ น.ผู้ตายซึ่งเป็นภริยาโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ข้อหนึ่งว่าหากน. เป็นภริยาโจทก์โจทก์ก็รู้เห็นเป็นใจให้ภริยามีชู้ ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ในประเด็นที่ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจให้จำเลยเป็นชู้กับผู้ตายนั้น ภาระการพิสูจน์ตกแก่จำเลย


ประเด็น พฤติการณ์การแสดงออกต่อบุคคลภายนอก คำพิพากษาศาลฏีกาที่ ๖๕๑๖/๒๕๕๒ แม้จำเลยที่ ๑ จะไม่เคยพาจำเลยที่ ๒ ออกงานสังคม หรือแนะนำให้บุคคลอื่นรู้จักในฐานะภริยา แต่การที่จำเลยทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยอยู่ในบ้านซึ่งปลูกสร้างในแหล่งชุมชนด้วยกันในเวลากลางคืน ขับรถรับส่งเมื่อไปทำกิจธุระหรือซื้ออาหารด้วยกัน ย่อมบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่ต่อกัน แสดงว่าจำเลยที่ ๑ ยกย่องจำเลยที่ ๒ ฉันภริยาอันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๑๖ (๑) แล้ว และโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ ๒ ที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นสามีโจทก์ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓ วรรคหนึ่ง ได้อีกด้วย


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๘๕๑/๒๕๕๕  ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง การที่ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่มีความสัมพันธ์กับสามีของตนในทำนองชู้สาวได้ก็เฉพาะแต่หญิงนั้นต้องแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับสามีของตนในทำนองชู้สาว เมื่อโจทก์เพียงแต่สงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างสามีโจทก์กับจำเลย เช่น การที่สามีโจทก์ไปค้ำประกันหนี้เช่าซื้อรถยนต์ให้จำเลย การรับฟังผู้อื่นเล่ามาว่ามีคนต้องการโทรศัพท์ไปหาสามีโจทก์ เมื่อโทรหาจำเลยก็ติดต่อกับสามีโจทก์ก็ได้ หรือมีผู้เล่าว่าสามีโจทก์ไปหาจำเลยที่บ้านเช่า แต่ไม่ปรากฏว่า มีพยานอื่นสนับสนุนยังไม่พอฟังว่าเป็นการแสดงตนโดยเปิดเผย ทั้งการที่จำเลยกับสามีโจทก์อยู่ด้วยกันตามลำพังในโรงแรมชานเมือง แม้เป็นพฤติกรรมที่ทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยอาจจะไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์ก็ตาม ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า แต่เมื่อสิทธิที่โจทก์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยนั้น จำเลยต้องแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวเท่านั้น แต่การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการลักลอบและพยายามปกปิดการกระทำให้ทราบกันตามลำพังระหว่างจำเลยและสามีโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลย


มีแนวคำพิพากษาศาลชั้นต้น ข้อเท็จจริง คือ ภริยาแอบไปเปิดดูมือถือของสามี ปรากฎว่าพบรูปสามีนอนกอดกับหญิงอื่นบนเตียง มีการสนทนาแชทผ่านไลน์ ด้วยความรักใคร่กัน และในระหว่างคุยโทรศัพท์ยังมีการเปิดลำโพง จนพ่อของภริยาได้ยิน ภริยาฟ้องหญิง ชู้เรียกค่าทดแทนเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากฝ่ายหญิงอื่นไม่ได้แสดงออกต่อบุคคลภายนอกอย่างเปิดเผย แม้พ่อของภริยาจะได้ยินการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่ได้เป็นการกระทำของหญิงผู้นั้น


ตัวอย่าง คดีที่วินิจฉัยเรื่อง "จำนวนเงินค่าทดแทน" คำพิพากษาศาลฏีกาที่ ๖๕๕๘/๒๕๔๒  การที่จำเลยกับป. สามีโจทก์ พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันในท้องที่ย่านชุมนุมชน โดยเปิดเผย และมีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาจนมีบุตรด้วยกัน โดยบุตรก็ใช้นามสกุลของ ป. ด้วยนั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงโดยเปิดเผยว่าจำเลยมีความสัมพันธ์กับ ป.ในทำนองชู้สาวแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องออกงานสังคมร่วมกับ ป. แต่อย่างใด ตามปกติภริยาย่อมต้องรักใคร่หวงแหน มิให้สามีไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงอื่น เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอย่างยิ่ง โจทก์มีความรักและหวงแหน ป. ผู้เป็นสามีถึงกับต้องย้ายจากจังหวัดนครศรีธรรมราชติดตามมาอยู่กับ ป. ที่จังหวัดจันทบุรีและยังไปร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา ป.ให้ว่ากล่าวตักเตือน ป.ให้ยุติความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยด้วย ไม่ปรากฏว่ามีเหตุผลหรือพฤติการณ์พิเศษอย่างใดที่โจทก์มีความจำเป็นต้องยินยอมให้จำเลยมาเป็นภริยาของ ป. อีกคนหนึ่ง เมื่อจำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับ ป. ในทำนองชู้สาว โดยโจทก์มิได้ยินยอมเช่นนี้ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ค่าทดแทนที่ภริยาเรียกจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวนั้น พิจารณาจากความเสียหายที่ภริยาพึงได้รับ พฤติการณ์แห่งคดีและสถานะของคู่สมรสเป็นหลัก โจทก์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบอาชีพรับราชการนับว่าเป็นผู้มีเกียรติฐานะในวงสังคม โจทก์กับ ป.สมรส กันมานานถึง ๑๐ ปี มีบุตรด้วยกัน ๑ คน สถานะของครอบครัวมีความมั่นคงสมบูรณ์ การกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท นับว่าเหมาะสมแล้ว


คำพิพากษาศาลฏีกาที่ ๒๔๙๘/๒๕๕๒  ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๕ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า การกำหนดค่าทดแทน กรณีศาลพิพากษาให้หย่ากัน เพราะเหตุสามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามีเป็นชู้ หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณตามมาตรา ๑๕๑๖ (๑) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากหญิงอื่นหรือชู้ ตามมาตรา ๑๕๒๓ วรรคหนึ่ง นั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์โดยศาลจะสั่งให้ชำระครั้งเดียวหรือแบ่งชำระเป็นงวดๆ มีกำหนดเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควรก็ได้ และวรรคสองบัญญัติว่า ในกรณีที่ผู้จะต้องชำระค่าทดแทนเป็นคู่สมรสของอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ศาลคำนึงถึงจำนวนทรัพย์สินที่คู่สมรสนั้นได้รับไปจากการแบ่งสินสมรสเพราะการหย่านั้นด้วย เมื่อโจทก์เรียกค่าทดแทนจากจำเลยซึ่งเป็นคู่สมรสเป็นเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยมิได้แสดงพฤติการณ์พิเศษให้เห็นว่าเพราะเหตุใดโจทก์จึงควรได้ค่าทดแทนจำนวนดังกล่าว ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ศาลจึงต้องกำหนดโดยคำนึงถึงฐานานุรูปของโจทก์ จำเลยและพฤติการณ์แห่งคดี อีกทั้งทรัพย์สินที่โจทก์ได้รับจากการแบ่งสินสมรสตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองตามบทบัญญัติมาตรา ๑๕๒๕ ดังกล่าว ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดค่าทดแทนเพราะเหตุจำเลยอุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นฉันภริยาเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท นับว่าเหมาะสมตามควรแก่พฤติการณ์แล้วไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะกำหนดค่าทดแทนให้มากไปกว่านี้


ประเด็น จะฟ้องบังคับชู้ยุติความสัมพันธ์กับคู่สมรสไม่ได้ เพียงฟ้องเรียกค่าทดแทนเท่านั้น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๐๑๔/๒๕๓๐ การที่จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวนั้น โจทก์จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีโจทก์ด้วยไม่ได้ เพราะโจทก์เพียงแต่มีสิทธิที่จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสองทั้งโดยสภาพของคำขอดังกล่าวไม่เปิดช่องให้ศาลบังคับคดีได้


ประเด็น ข้าราชการมีชู้ เป็นชู้ ถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นไล่ออก คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๓๔๐/๒๕๔๙ วินิจฉัยไว้ว่า พฤติการณ์และการกระทำของผู้ฟ้องคดี เชื่อได้ว่าผู้ฟ้องคดีเป็นชู้กับภรรยาของผู้อื่น ถือได้ว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา ๙๘ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๓๕ การสั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ จึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลพิพากษายกฟ้อง


 

ประเด็นอายุความ ๑ ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ความจริง มิฉะนั้นคดีขาดอายุความ ตามมาตรา ๑๕๒๙ เว้นแต่จะเป็นการกระทำต่อเนื่องตลอดมา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๗๔๑/๒๕๒๖ จำเลยได้หญิงอื่นและรับเข้ามาอยู่ในบ้าน อันเป็นการเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๑๖(๑) และจำเลยหมิ่นประมาทเหยียดหยามโจทก์ซึ่งเป็นภริยา ตาม มาตรา ๑๕๑๖(๓) ทั้งสองกรณีเหตุเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ โจทก์รู้ความจริงดังกล่าวในปีเดียวกัน โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๓ คดีโจทก์ขาดอายุความตาม มาตรา๑๕๒๙


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๖๒๐/๒๕๓๘ โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาว มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ ตลอดมาจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ ลักษณะการกระทำของจำเลยที่ ๑ ได้กระทำต่อเนื่องกันมายังมิได้หยุดการกระทำ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๕๒๙


ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่

๑ หลักฐานแสดงความสัมพันธ์อย่างชัดเจน เช่น รูปภาพใน Facebook หรือ LINE พยานบุคคล คลิปวีดิโอ เป็นต้น

๒ ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายมีชู้ จะเรียกค่าทดแทนไม่ได้

๓ หลักฐานที่แสดงว่า "ชู้" ทราบว่าบุคคลที่ตนมีความสัมพันธ์ทำนองชู้สาวอยู่นั้นมีคู่สมรสอยู่แล้ว

๔ ต้องพิสูจน์เกี่ยวกับฐานะของตัวโจทก์เองด้วย

๕ กรณีที่โจทก์เองเคยมีสามี และบุตรมาแล้ว ย่อมทำให้เรียกค่าทดแทนได้เงินน้อย จากการฟ้องสามีในปัจจุบัน

๖ ลักษณะชู้สาว ในการแสดงตนโดยอย่างเปิดเผยว่าเป็นภริยา เช่น ไปกินข้าว ดูหนัง เดินห้างสรรพสินค้า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดพิเศษเกินกว่าเพื่อนร่วมงานทั่วไป พักอาศัยในห้องเดียวกัน เข้าโรงแรม เข้าม่านรูด ออกงานสังคม ออกค่าห้องพักให้ โอนเงินให้เป็นประจำ จัดพิธีหมั้น ซื้อทรัพย์สินร่วมกันหรือให้กัน หรือประกอบกิจการร่วมกัน เป็นต้น

๗ ผู้เสียหายสามารถร้องเรียนหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานราชการของชู้ได้ เพื่อทำโทษทางวินัย

๘ ค่าขึ้นศาล ร้อยละ ๒ ของจำนวนเงินที่เรียกร้อง 


Tag: ทนายเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, ทนายประชาชน,  สำนักงานทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่เก่งๆ, ปรึกษาทนายเชียงใหม่,  ทนายอาสาเชียงใหม่, สภาทนายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่มืออาชีพ, ทนายความเชียงใหม่ช่วยเหลือ SME และ START UP, ทนายเชียงใหม่ความมุ่งมั่น, ทนายความเชียงใหม่คลายทุกข์, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่คลายทุกข์


#สำนักงานทนายเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่เก่งๆ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายอาสาเชียงใหม่ #สภาทนายเชียงใหม่ #ทนายความเชียงใหม่



Share on Facebook

ปรึกษาฟรี!! มุ่งมั่นช่วยเหลือแก่ทุกท่าน แบบมิตรภาพ โดยทีมทนายความวิถีพุทธ

ดร.เกียรติศักดิ์ เนติบัณฑิตย์ไทย ทนายวิถีพุทธ และทีมทนายความเชียงใหม่ ติดต่อโทร 081-951-1100

 
เว็บสำเร็จรูป
×